โพสต์ทูเดย์ 21 เมษายน 2554
กมธ.พัฒนาการเมือง จี้นายกฯระงับสร้างเขื่อนไซยะบุรี อ้างมติเอ็มอาร์ซียังไม่อนนุมัติ
นายวัชระ เพชรทอง สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ที่ประชุมกมธ.มีมติคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี ในประเทศลาว ซึ่งมีผล กระทบต่อวิถีชีวิตและระบบนิเวศของคนไทยและประเทศอื่นริมแม่น้ำโขง แม้จะอยู่ประเทศลาวแต่ห่างจากหนองคาย 80-90 กิโลเมตร
ทั้งนี้ จากการประชุมเอ็มอาร์ซีของ 4 ประเทศ คือ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้ข้อสรุป มีเพียงประเทศลาวเท่านั้น ที่ยืนยันให้เดินหน้าก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี ในขณะที่อีก 3 ประเทศต้องการให้ศึกษาอย่างละเอียดรอบครอบ ซึ่งกมธ.เป็นห่วงว่า การลงนามซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาว อาจเข้าข่าย ขัด มาตรา 190 รัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา
นายวัชระ กล่าวต่อว่า กมธ.จะยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนไซยะบุรี ต่อนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ในฐานะผู้ทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากลาว บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ก่อสร้างเขื่อน รวมถึงจะทำการตรวจสอบ ธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็น1ใน4 ธนาคารของประเทศไทยที่ปล่อยกู้เงินในการก่อสร้างเขื่อน
นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตประธานอนุกรรมาธิการศึกษาคุณค่าการพัฒนาและผลกระทบในลุ่มน้ำโขง กล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่าการสร้างเขื่อนจะกระทบกับ พันธ์ปลา และแหล่งอาหารบริเวณโดยรอบ และจะมีการสร้างเขื่อนอื่นๆตามมาอีก 11เขื่อน และที่ผ่านมาประเทศจีนได้สร้างเขื่อนไปแล้ว 4เขื่อน หากยังปล่อยให้มีการสร้างเขื่อนนี้ก็จะทำให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมของทุก ประเทศริมแม่น้ำโขง